ต้นกำเนิดของกาแฟถูกขับขานกันมาด้วยหลากหลายตำนาน บ้างก็บอกว่าแท้ที่จริงแล้วนั้นกาแฟเกิดขึ้นที่แถบอาราเบียน บางก็บอกว่ากาแฟเกิดขึ้น ณ ดินแดนของคุณยายลูซี่ อย่างเอธิโอเปีย แต่ไม่ว่ากาแฟจะมีจุดกำเนิดที่ใด ในตอนนี้กาแฟก็ได้กลายเป็นพืชส่งออกยอดนิยมติดอันดับโลกไปเสียแล้ว โดยในบทความชิ้นนี้จะขอกล่าวถึงต้นกำเนิดกาแฟตามเส้นเวลา Time Line ไล่มาตั้งแต่ปี 850 ที่จะได้เป็นชื่ออตอนของเรื่องสั้นในครั้งนี้ ไล่มาจนถึงปัจจุบัน
_________________________________________________________________________
ในเช้าอันสดใสของปลายฤดูใบไม้ร่วงต้นฤดูหนาว
คาลดิต้อนฝูงแกะของเขาไปตามที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ ต้นไม้ใหญ่เกือบทั้งบริเวณต่างชวนกันผลัดใบสีสันสวยงามเพื่อเชิญชวนลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามาอย่างเริงร่า
ปศุสัตว์ของคาลดิ ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เขารับหน้าที่ดูแลแพะของตระกูล
ทุกวันเขาจะพาฝูงแพะนับร้อยตัวออกมากินหญ้าห่างจากหมู่บ้านที่เขาอาศัย
ในวันนี้เขาเดินออกมาใกล้กว่าปกติเพราะอาหารที่แพะของเขารวมถึงของคนอื่นได้เล็มกินไปเสียโล่งเตียน
คาลดิกำลังคิดหนักกับอาหารที่ลดน้อยลงในช่วงฤดูหนาว
แม้อากาศในวันนี้จะสดใสมากก็ตาม หากอาหารลดน้อยลงเขาก็ต้องเดินทางไกลขึ้น เขาคิดเช่นนี้มาตลอดทั้งคืนจนมีอาการง่วงซึม
ฝูงแพะครอบครัวสิบชีวิตที่มักจะร่าเริงสดใส
ตัวเล็กที่สุดเพิ่งจะคลอดออกมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน มันเดินตามหลังแม่มันไปติดๆ
น่าเศร้าใจที่หลงเหลือมันเพียงตัวเดียว เพราะพี่น้องของมันถูกหมาป่าแถวทุ่งหญ้าจับกินตอนที่เขากำลังใช้เวลาอยู่กับการนั่งกินอาหารในช่วงบ่ายของวัน
หลังจากการตายของแพะราวห้าตัวในครั้งนั้น
ฝูงแพะที่เขามักจะเห็นร่าเริงสดใสกลับดูงอยเหงาลงไปถนัดตา
โดยเฉพาะแม่แพะที่ต้องเศร้าเสียใจกับการสูญเสียลูกน้อยทั้งสองตัวของมัน และเพื่อนแพะในฝูง
เนื่องจากเหตุการณ์แพะถูกฆ่าตายจึงทำให้คาลดิถูกปู่ของเขาต่อว่าอย่างหนัก
เขาทั้งกังวลเรื่องนี้และการเลี้ยงดูพวกมัน
หลายสิ่งรบกวนจิตใจเขาจนหมดอาลัยตายอยาก
คนเลี้ยงแพะหนุ่มต้อนฝูงแพะของเขามายังที่ราบสูงแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้หลากชนิด
จากตรงนี้เขาสามารถมองเห็นภูเขาสูงและภูเขาลูกเล็กเลียงสลับซับซ้อนก่อน
คาลดิร้องส่งเสียงดังเพื่อต้อนฝูงแพะของเขาให้อยู่ตามแนวพุ่มไม้ที่เขาวางสัมภาระลง
เขาตัดสินใจที่จะพักตรงนี้เพื่อให้ฝูงแพะได้เล็มกินพืชตามที่มันต้องการ
ระหว่างที่กำลังนั่งมองออกไปไกลสุดสายตา
พันธุ์พืชสีเขียวปรับเปลี่ยนเป็นสีสันหลากสี คาลดิเริ่มออกอากาศง่วงนอนจนเผลอหลับไป
เขาเอนตัวพิงกับโขดพินขนาดใหญ่ที่ตั้งวางรอรับร่างกายของเขาราวกับมันรอเขามาแสนนาน
ร่างกายและสมองของคาลดิต้องการหลับพักผ่อน
เขาหลับไปทั้งๆที่ต้องดูแลฝูงปศุสัตว์ของเขา
จนกระทั้งเสียงของของแพะดังลั่นมาจากทางขึ้นเขาที่ทอดยาวห่างออกไปหลายสิบเมตร
คาลดิสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล
ราวกับว่าวิญญาณของเขาถูกกระชากหลับเข้ามาในร่างอีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ตัวเองเผลอหลับไป
แต่เสียงดังของแพะดึงปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา
รอบๆตัวของคาลดิยังคงมีฝูงแพะของเขาเล็มหญ้าและต้นพืชที่ขึ้นอยู่ในบริเวณนี้
เจาคว้าไม้เท้าที่ถือติดมือมาพร้อมยันตัวเองลุงขึ้นจากโขดหินก่อนจะปีนป่ายขึ้นไปด้านบนเพื่อสำรวจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แพะนับร้อยของเขายังคงยืนเล็มหญ้าหรือบ้างก็นอนพักผ่อนใต้ใต้ไม้เล็กใหญ่
เว้นเสียแต่ฝูงแพะครอบครัวที่เขาเป็นกังวลกับพวกมันที่หายไป
คาลดีรู้สึกราวกับว่าหัวใจของหัวตกลงไปที่ปลายเท้า
เหตุการณ์ในวันนั้นยังคงฉายชัดซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขา
ทุกค่ำคืนยังคงหลับฝันเห็นกองเลือด และซากศพของแพะที่เขาเลี้ยงมา
เหมือนสัญญาณร้ายจะแจ้งเตือนให้เขาตระหนักจนร้อนใจ
คาลดิกระโดดลงจากโขดหินด้วยความเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังเสียงร้องของฝูงแพะ
เท้าของเขาย่ำเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยเศษกิ่งไม้และกรวดกิน
ความเจ็บแปล๊บวิ่งทะลุขึ้นมาที่ปลายประสาทรับรู้แต่นั่นก็ไม่สามารถดึงให้เขาหยุดเคลื่อนไหวได้
เสียงร้องของแพะเด็กเพียงตัวเดียวในฝูงแพะครอบครัวใหญ่
หวี๊ดร้องเสียงดังมาจากหลังพุ่มไม้ คาลดิหวาดวิตกว่าจะมีฝูงหมาป่าหรือพวกสิงโต
หรืออะไรก็ตามที่มันจะเข้ามาฆ่าชีวิตเหล่าฝูงสัตว์ของเขา
ด้วยความตื่นตกใจไม้เท้าของคาลดิถูกยกขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธจำเป็น
เขาค่อยๆย่องอ้อมพุ่มไม้เพื่อสอดส่องดูว่ามันคือตัวอะไร เสียงของแพะฝูงเล็กดังขึ้นๆ
จนกระทั้งมีบางอย่างกระโจนออกมาจากพุ่มไม้เข้าใส่ร่างของคาลดิ
เขาเสียหลักล้มลงไปนอนราบกับพื้น คาลดิสะบัดไม้เท้าไปในอากาศ
แบะ แบะ!!
ลูกแพะตัวเล็กจิ๋วเดินเตะฝุ่นใส่ใบหน้าของคาลดิ
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบชันตัวลุกขึ้นมาจากพื้น ปัดเศษดินที่เกาะอยู่ตามตัว
แล้วเดินเขาไปในอีกฝั่งของพุ่มไม้
ฝูงแพะที่หายไปซึ่งเขากำลังตามหากระโดดโลดเต้นไปมา
บางตัวกำลังปีนป่ายงับผลไม้สีแดง ลักษณะเหมือนลูกเบอร์รี่ขนาดเล็กเท้านิ้วหัวแม่มือ
คาลดิมองสำรวจไปรอบๆบริเวณนี้ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ปราศจากสัตว์ร้ายที่เขาตินตนาการเอาไว้
เขาเดินเข้าไปใกล้แพะตัวเมียที่เป็นแม่ของแพะของจิ๋วซึ่งเดินตามหลังเขามา
มันกำลังกระโดดไปมาราวกับกำลังเต้นระบำ
“เกิดอะไรขึ้น!!” เขาสบถออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
พลางมองไปยังเบอร์รี่สีแดงสดที่ขึ้นอยู่รอบๆบริเวณนี้ แพะของเขากำลังพากันเล็มกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย
เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แพะของเขาดูร่าเริงผิดปกติ
ทั้งๆที่เมื่อเช้ามันแถบจะเดินไปกระโดดลงหน้าผาด้วยความตอมใจกับการสูญเสียครอบครัวไป
หากแต่ในเวลานี้มันกลับดูกระชับกระเชง มีพลัง เช่นผีร้ายเข้ามาสิงสู๋ในร่างกาย
การแสดงออกมาอย่างผิดปกติทำให้คาลดิเริ่มสงสัย
เขารู้ว่าพืชทุกอย่างที่แพะเลือกกินล้วนแต่เป็นสิ่งที่ปลอดภัย สามารถกินได้
แต่ไม่เคยเห็นพืชชนิดนี้มาก่อน
ลูกแพะที่เดินตามหลังเขามากระโดด หยองๆอีกครั้ง
มันเริ่มระบำอีกครั้ง และฝูงแพะรอบตัวมันก็พากันกระโดดไปมาเช่นกัน
คาลดิรู้ว่านี่เป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง
พวกสัตว์ที่เขาเลี้ยงคลายจากความทุกข์เศร้า พวกมันสดใส
และพลอยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมา
ความกังวลกัดกินในหัวใจของเขามาหลายวันเริ่มถูกลบเลือนไปอย่างช้าๆ
เบอร์รี่สีแดงที่ขึ้นอยู่รอบต้นไม้แปลกหน้าที่เขาเพิ่งเคยรู้จักกำลังดึงดูดให้คาลดิเข้าไปสัมผัส
เขาคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นอาหารชนิดใหม่ที่กินได้
คาลดิเด็ดมันออกมาจากช่อหนึ่งลูก เขาสลัดความลังเลใจทิ้งไปแล้วจับมันยัดเข้าปาก
ทันทีที่เคี้ยวไปหนึ่งทีก็พบกับความแข็งจากเมล็ดด้านใน ความหวานปนเฝื่อนที่เป็นรสชาติของผลไม้สีแดงก็ค่อยๆแทรกเข้ามาในระบบรับรสของเขา
คาลดิคายเมล็ดออกมาและโดยนทิ้งลงไปที่พื้น เขาหยิบผลอื่นเข้าใส่ในปากผลแล้วผลเหล่า
จนในที่สุดเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขากลับมากระปี้กระเปร่าอีกครั้ง
คาลดิพบว่าผลไม้ชนิดนี้ให้ความสดชื่นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนในพืชชนิดๆอื่นๆ
เขาไม่แปลกว่าเพราะเหตุใด ฝูงแพะของเขาถึงได้เปลี่ยนไปราวกับถูกมนต์คาถา
ก่อนที่คาลดิจะต้อนฝูงแพะของเขากลับบ้าน เขาเก็บเบอร์รี่สีแดงติดกลับไปด้วย
และนำไปแจกให้คนในบ้านรวมถึงคนอื่นๆในหมู่บ้านได้กิน
ซึ่งแทบจะทุกคนที่ได้ลิ้มลองเบอร์รี่สีแดงต่างก็พบกันพูดเป็นเสียงเดียวว่านี่เป็นผลไม้ที่สวรรค์ประทานลงไปให้
_________________________________________________________________________
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการค้นพบกาแฟโดยชาวเอธิโอเปียน
นามว่า คาลดิ (Kaldi) ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่มีใครทราบแน่นชัดว่าใคร เมื่อไหร่ และที่ไหน
กันแน่ที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของกาแฟที่แท้จริง เพราะหากเอาเข้าจริง
กาแฟก็มีสายพันธุ์มากมายกว่า 6,000 พันธุ์กันเลยทีเดียว แต่ที่เรารู้จักและได้ชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ดั่งเดิมก็คือ
อาราบิก้า ที่คาลดิได้ค้นพบนั่นเอง
สำหรับตอนต่อไปยังคงอยู่ในปี 850
ซึ่งบางตำราก็บอกว่าเป็นราวปี 800 ที่เป็นช่วงเวลาของการค้นพบกาแฟครั้งแรกๆของโลก
มาดูกันว่าหลังจากการบอกเล่าของคาลดิให้แก่ชาวบ้านได้รู้จักเบอร์รี่สีแดงนี้
จะเกิดอะขึ้นต่อจากนั้น
พบกับ เรื่องสั้น 850 The red berries ตอนที่
2 ในบทความต่อไปและประวัติศาสตร์ของกาแฟตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้ในบล็อกของเรา Coffee
Construct ค่ะ
สาระ : กาแฟในช่วงแรกคนรู้จักเพียงแค่เป็นผลเชอรี่รสหวานปนเฝื่อนเท่านั้น พวกเขาจึงกัดกินแค่เปลือกและเนื้อเชอรี่ จึงไม่ได้มีการกะเทาะ แต่ปัจจุบันกาแฟได้ถูกนิยมนำมารับประทานในรูปแบบเครื่องดื่ม จึงต้องผ่านการกะเทาะผ่านเครื่องกะเทาะเชอรี่สด หรือ นำไปจากตากแห้งทั้งผลให้เป็นเชอรี่ตากแห้ง แล้วใส่เครื่องกะเทาะเชอรี่แห้ง ซึ่งก็แล้วแต่โรงกาแฟในแต่ละแห่งจะเลือกกระบวนการในการผลิตนั่นเอง
หมายเหตุ : เรื่องสั้นนี้เป็นเพียงการแต่งเติมตามจินตนาการและประกอบกับตำนานเท่านั้น
No comments:
Post a Comment