Tuesday, July 5, 2016

Burundi กาแฟเลือด









เริ่มตั้งแต่ปี 1993 ในประเทศบุรุนดี (Burundi) ได้เกิดสงครามกลางเมืองที่บ่มเพาะความขัดแย้งมานานนับศรรตวรรษจนในที่สุดก็เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่าง 2 เผ่าพันธุ์ในชาติ นั่นคือชาวฮูตู (Hutu) และชาวตูดซิ (Tutsi) โดยความขัดแย้งนี้ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งในปัจจุบันที่สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง ด้วยเหตุนี้เองทำให้ระบบเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเต็มไปด้วยความยากลำบากเมื่อต้องเสี่ยงอันตรายต่อการตกอยู่ในวงล้อมของสงคราม และกองเลือด



ประเทศบุรุนดี ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกาพื้นที่ทั้งหมด 27,830 ตารางกิโลกเมตร พรมแดยทิศเหนือติดกับประเทศรวันดา ทิศใต้และตะวันออกติดกับแทนซาเนีย ทิศตะวันตกติดกับคองโก โดยมีทะเลสาบแทนกานยิกาอยู่ทางทิศใต้และตะวันตกของประเทศ ซึ่งบุรุนดีไม่มีพื้นที่ใดติดกับทะเล จึงทำให้ต้องใช้ทางผ่านของประเทศแทนซาเนียในการลำเลียงส่งออกสินค้าไปทางมหาสมุทรอินเดีย


ประชากรของบุรุนดีมีราว 10 ล้านคน แบ่งออกเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักๆ 3 กลุ่ม นั่นคือ ชาวฮูตู (Hutu) ร้อลละ 85 และชาวตูดซิ (Tutsi) ร้อยละ14 และ ชาวทวา (Twa) ร้อยละ 1 นอกนั้นจะเป็นชาวยุโรปและเอเชียใต้ที่เข้ามาทำงาน และเนื่องด้วยประเทศบุรุนดีมีชนเผ่าใหญ่ ๆ 2 เผ่าทำให้เกิดความขัดแย้งกัน เดิมทีพื้นที่ของประเทศมีชาวฮูตูอาศัยอยู่แต่ชาวตูดซิได้เข้ามายึดครอง ทำให้ทั้ง 2 เผ่าไม่ถูกกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา กินระยะเวลายาวนานจนถึงปัจจุบัน


ด้วยเหตุทางด้านการเมืองภายในประเทศส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศไม่เติบโตเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังถูกการคว่ำบาตรจากต่างประเทศอันเนื่องมาจากสงครามและความรุนแรงในประเทศ รายได้หลักของประเทศจึงมาจากการเพาะปลูกชาและกาแฟ ซึ่งมีราคาผันผวนไปตามตลาดโลก


เนื่องจากบุรุนดีเป็นประเทศขนาดเล็ก มีพื้นที่ดีไม่มาก ทรัพยากรก็ไม่ค่อยจะสมบูรณ์นัก ประชาชนจึงต้องอาศัยการเกษตรกรรมในการประกอบอาชีพอันเป็นพื้นฐานของอาชีพหลักของคนในพื้นที่กว่าร้อยละ 90 โดยพืชเศรษฐกิจของประเทศบุรุนดีคือการปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ความสูง 1,370 – 1,830 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อุณหภูมิเฉลี่ย 15 – 24 องศาเซลเซียล ซึ่งใกล้เคียงกับอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศบุรุนดีที่อยู่ประมาณ 17 – 23 องศาเซลเซียล


ด้วยเหตุที่ประเทศบุรุนดีเป็นประเทศยากจนทำให้การปลูกกาแฟของที่นี่ต้องใช้แรงงานคนเป็นหลัก  โดยเกษตรกรต้องเริ่มเตรียมการเพาะปลูกกันตั้งแต่แรกด้วยแรงงานคน การเก็บเกี่ยวกาแฟเชอร์รี่จะเก็บใส่กระสอบและลำเลียงมายังโรงกาแฟเพื่อทำการแปรรูปเป็นกาแฟกะลา และกาแฟสารในขั้นต่อมาเพื่อทำการส่งออก
สถานการณ์ปัจจุบัน


จากความขัดแย้งของประชาชนในชาติที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศไม่เจริญเติบโตอย่างที่ควรนัก แม้แต่การส่งออกกาแฟซึ่งยังคงเผชิญกับปัญหาสงครามและการเมืองไม่หยุดยั้ง ซึ่งประเทศคู่ค้าของบุรุนดีคือซาอุดิอาราเบีย (Saudi Arabia) จีน (China) แทนซาเนีย (Tanzania) และอื่นๆ



กาแฟจากบุรุนดีได้ชื่อว่าเป็นกาแฟที่ดีที่สุดอีกหนึ่งแห่งหนึ่งของโลก แต่หากสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กาแฟสีน้ำตาลส่งกลิ่นหอมอาจจะต้องกลับมาตลบอบอวลด้วยกลิ่นคาวเลือดก็เป็นได้ โชคดีที่ประเทศไทยไม่ได้มีเรื่องราวแบบ Burundi กาแฟเลือด เราจึงยังคงมีความสุขกับการดื่มกาแฟ และการสรรหากาแฟที่ดีที่สุดมาบริโภค



 สาระ : ในขณะที่หลายประเทศในแอฟริกาที่ผลิตกาแฟ ยังคงใช้วิธีแบบท้องถิ่นในการคัดแยกเมล็ด ซึ่งอาจจะช้าและส่งผลต่อคุณภาพเมล็ด แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า เช่น เครื่องคัดแยกกาแฟ A-mecs Colorsorter








ดูเพิ่มเติมได้ที่ :  http://coffeeconstruct.com
http://amecsthailand.com
http://coffeefarm.info

เว็บไซต์อื่นๆ :
http://www.beltandbearings.com
#โรงกาแฟ





No comments:

Post a Comment