Thursday, July 7, 2016

MALAWI กาแฟมาลาวี







หากกล่าวถึงประเทศในแทบแอฟริกาที่มีทะเลสาบใหญ่ติดอันดับ 3 ของทวีป ในน้ำเต็มไปด้วยปลาหมอสีหลากหลายสวยพันธุ์ บางคนที่ชื่นชอบอาจจะร้องอ้อ และนึกอยากจะไปเยือนให้ได้สักครั้ง 



ประเทศมาลาวี (Malawi) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับประเทศแซมเบีย ทางทิศเหนือติดกับประเทศแทนซาเนีย และทิศตะวันออก เรื่อยมาจนถึงทิศใต้และทิศตะวันตกติดกับประเทศโมซัมบิก ไม่มีพื้นที่ใดติดกับทะเลแต่ในประเทศมีทะเลสาบที่ใหญ่ติดอันดับ 3 ของทวีปแอฟริกา นั่นคือ ทะเลสาบมาลาวี อันได้รับฉายาว่าทะเลสาบแห่งดวงดาว
ในมาลาวีมีการเพาะปลูกกาแฟอยู่หลายพื้นที่ด้วยกัน โดยการปลูกจะมีระดับพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,200 – 2,000 พันธุ์กาแฟที่ปลูกจะเป็นอาริบิก้า ซึ่งจะเริ่มเพาะปลูกตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายน



ประวัติศาสตร์การเพาะปลูกกาแฟในประเทศมาลาวี เริ่มจากการถูกอังกฤษเข้ามาปกครองในประเทศ มีการทำไร่กาแฟเพื่อการส่งออก จนกระทั้งมาลาวีได้รับบเอกราชจากอังกฤษก็ได้ทำไร่กาแฟเอง โดยกาแฟของมาลาวีมีความแข็งแรงและคุณภาพยอดเยี่ยม อันเป็นผลมาจากดินที่ดี อุดมไปด้วยแร่ธาติจากการทับทบของทะเล



วิถีชีวิตการทำกาแฟของชาวบ้านมาลาวีเต็มไปด้วยความเรียบง่าย ขั้นตอนแรกของการปลูกกาแฟคือการนำกาแฟไปเพาะให้เป็นต้นกล้าขนาดเล็ก จากนั้นก็นำไปปลูกใช้เวลาเลี้ยงดูจนต้นกาแฟเจริญเติบโตประมาณ 2 – 3 ปี ต้นกาแฟก็จะเริ่มออกดอกออกผล โดยผลกาแฟจะเป็นสีแดงสด เรียกว่า กาแฟเชอร์รี่ ในช่วงนี้เองเกษตรกรจะช่วยกันเก็บผลที่สุกใส่ลงไปฝยกระสอบหรือภาชนะที่เตรียม แล้วจึงจะนำกาแฟเชอร์รี่ที่ได้รวบรวมเพื่อแบกไปบังโรงกาแฟ ซึ่งจะมีนายทุนรอรับซื้ออยู่แล้ว ตามราคาที่ตกลงกันไว้ เมื่อได้กาแฟเชอร์รี่ที่นำมารวมๆกันแล้ว จะทำการคัดเอาผลที่ดีมีคุณภาพแยกจากผลที่เกิดคสามเสียหาย ซึ่งจะเป็นการคัดแยกเกณฑ์คุณภาพ
กาแฟเชอร์รี่จะถูกลำเลียงอยู่ภายในเครื่องจักรโรงกาแฟตามขั้นตอน ตั้งแต่การล้างทำความสะอาด การคัดแยกผล การเอาเนื้อออกจากเมล็ด จนกระทั้งได้กาแฟที่เหลือแต่เปลือก เรียกว่ากาแฟกะลา เมื่อได้มาแล้วจะถูกนำไปตากให้แห้งก่อนจะนำกลับมาวัดความชื้นด้วยเครื่องวัดความชื้น ในขั้นนี้อาจจะมีการขายออกไปหรือยังคงเก็บเอาไว้เพื่อรอทำให้เป็นกาแฟสาร ซึ่งจะมีหน้าตาเหมือนกาแฟสดที่เรารับประทาน หากแต่ยังคงเป็นสีอ่อนๆเพราะยังไม่ได้ผ่านการคั่ว



นอกจากนี้กาแฟที่ถูกเก็บมานั้นจะนำถูกนำไปแปรรูปให้อยู่ในรูปแบบสามารถรับประทานได้ง่าย แต่ถ้าหากชาวบ้านนำมาปรุงดื่มเอง ขั้นตอนจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย คือการนำกาแฟเชอร์นี้ไปแยกออกจากเมล็ด แล้วนำไปตากให้แห้งด้วยแดด จากนั้นจะทำการกระเทาะเปลือกออก หากเป็นในโรงกาแฟ ขั้นตอนนี้จะเรียกว่าสีเปลือกกาแฟ คล้ายๆกับการสีข้าว จากนั้นก็จะนำกาแฟไปสารไปคั่วจนสุกหรือไหม้ตามที่ต้องการ โดยกาแฟที่คั่วนานจะได้รสชาติที่เข้มข้น ส่วนกาแฟคั่วอ่อนจะมีกลิ่นหอม



มาลาวีที่แม้จะมีชื่อเสียงในด้านการปลูกยาสูบ และชา มากกว่ากาแฟ แต่คุณภาพของกาแฟไม่ได้ด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านเช่นแทนซาเนียแม้แต่น้อย ซึ่งจะว่าไป กาแฟที่มาจากถิ่นแอฟริกาก็ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพอันดับต้นๆของโลกอยู่แล้ว หากใครมีโอกาสได้ลิ้มลอง ก็อย่าลืมแชร์มาบอกต่อกันบ้างนะคะ


สาระ : หากอยากทำธุรกิจโรงกาแฟ ที่มากกว่าการเป็นเจ้าของร้านกาแฟทั่วไป สามารถติดต่อเข้ามาพูดคุยกับเราได้ตามที่อยู่ด้านล่าง 



ดูเพิ่มเติมได้ที่ :  http://coffeeconstruct.com
http://amecsthailand.com

http://coffeefarm.info

เว็บไซต์อื่นๆ :
http://www.beltandbearings.com
#โรงกาแฟ

No comments:

Post a Comment