หากกล่าวถึงประเทศในแทบแอฟริกาที่มีทะเลสาบใหญ่ติดอันดับ
3 ของทวีป ในน้ำเต็มไปด้วยปลาหมอสีหลากหลายสวยพันธุ์ บางคนที่ชื่นชอบอาจจะร้องอ้อ
และนึกอยากจะไปเยือนให้ได้สักครั้ง
ประเทศมาลาวี (Malawi) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา
ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับประเทศแซมเบีย ทางทิศเหนือติดกับประเทศแทนซาเนีย
และทิศตะวันออก เรื่อยมาจนถึงทิศใต้และทิศตะวันตกติดกับประเทศโมซัมบิก ไม่มีพื้นที่ใดติดกับทะเลแต่ในประเทศมีทะเลสาบที่ใหญ่ติดอันดับ 3
ของทวีปแอฟริกา นั่นคือ ทะเลสาบมาลาวี อันได้รับฉายาว่าทะเลสาบแห่งดวงดาว
ในมาลาวีมีการเพาะปลูกกาแฟอยู่หลายพื้นที่ด้วยกัน
โดยการปลูกจะมีระดับพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,200 – 2,000 พันธุ์กาแฟที่ปลูกจะเป็นอาริบิก้า
ซึ่งจะเริ่มเพาะปลูกตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายน
ประวัติศาสตร์การเพาะปลูกกาแฟในประเทศมาลาวี
เริ่มจากการถูกอังกฤษเข้ามาปกครองในประเทศ มีการทำไร่กาแฟเพื่อการส่งออก
จนกระทั้งมาลาวีได้รับบเอกราชจากอังกฤษก็ได้ทำไร่กาแฟเอง
โดยกาแฟของมาลาวีมีความแข็งแรงและคุณภาพยอดเยี่ยม อันเป็นผลมาจากดินที่ดี
อุดมไปด้วยแร่ธาติจากการทับทบของทะเล
วิถีชีวิตการทำกาแฟของชาวบ้านมาลาวีเต็มไปด้วยความเรียบง่าย
ขั้นตอนแรกของการปลูกกาแฟคือการนำกาแฟไปเพาะให้เป็นต้นกล้าขนาดเล็ก
จากนั้นก็นำไปปลูกใช้เวลาเลี้ยงดูจนต้นกาแฟเจริญเติบโตประมาณ 2 – 3 ปี
ต้นกาแฟก็จะเริ่มออกดอกออกผล โดยผลกาแฟจะเป็นสีแดงสด เรียกว่า กาแฟเชอร์รี่
ในช่วงนี้เองเกษตรกรจะช่วยกันเก็บผลที่สุกใส่ลงไปฝยกระสอบหรือภาชนะที่เตรียม
แล้วจึงจะนำกาแฟเชอร์รี่ที่ได้รวบรวมเพื่อแบกไปบังโรงกาแฟ
ซึ่งจะมีนายทุนรอรับซื้ออยู่แล้ว ตามราคาที่ตกลงกันไว้
เมื่อได้กาแฟเชอร์รี่ที่นำมารวมๆกันแล้ว
จะทำการคัดเอาผลที่ดีมีคุณภาพแยกจากผลที่เกิดคสามเสียหาย
ซึ่งจะเป็นการคัดแยกเกณฑ์คุณภาพ
กาแฟเชอร์รี่จะถูกลำเลียงอยู่ภายในเครื่องจักรโรงกาแฟตามขั้นตอน
ตั้งแต่การล้างทำความสะอาด การคัดแยกผล การเอาเนื้อออกจากเมล็ด จนกระทั้งได้กาแฟที่เหลือแต่เปลือก
เรียกว่ากาแฟกะลา
เมื่อได้มาแล้วจะถูกนำไปตากให้แห้งก่อนจะนำกลับมาวัดความชื้นด้วยเครื่องวัดความชื้น
ในขั้นนี้อาจจะมีการขายออกไปหรือยังคงเก็บเอาไว้เพื่อรอทำให้เป็นกาแฟสาร
ซึ่งจะมีหน้าตาเหมือนกาแฟสดที่เรารับประทาน หากแต่ยังคงเป็นสีอ่อนๆเพราะยังไม่ได้ผ่านการคั่ว
นอกจากนี้กาแฟที่ถูกเก็บมานั้นจะนำถูกนำไปแปรรูปให้อยู่ในรูปแบบสามารถรับประทานได้ง่าย
แต่ถ้าหากชาวบ้านนำมาปรุงดื่มเอง ขั้นตอนจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย
คือการนำกาแฟเชอร์นี้ไปแยกออกจากเมล็ด แล้วนำไปตากให้แห้งด้วยแดด จากนั้นจะทำการกระเทาะเปลือกออก
หากเป็นในโรงกาแฟ ขั้นตอนนี้จะเรียกว่าสีเปลือกกาแฟ คล้ายๆกับการสีข้าว
จากนั้นก็จะนำกาแฟไปสารไปคั่วจนสุกหรือไหม้ตามที่ต้องการ
โดยกาแฟที่คั่วนานจะได้รสชาติที่เข้มข้น ส่วนกาแฟคั่วอ่อนจะมีกลิ่นหอม
มาลาวีที่แม้จะมีชื่อเสียงในด้านการปลูกยาสูบ
และชา มากกว่ากาแฟ
แต่คุณภาพของกาแฟไม่ได้ด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านเช่นแทนซาเนียแม้แต่น้อย ซึ่งจะว่าไป กาแฟที่มาจากถิ่นแอฟริกาก็ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพอันดับต้นๆของโลกอยู่แล้ว หากใครมีโอกาสได้ลิ้มลอง ก็อย่าลืมแชร์มาบอกต่อกันบ้างนะคะ
สาระ : หากอยากทำธุรกิจโรงกาแฟ ที่มากกว่าการเป็นเจ้าของร้านกาแฟทั่วไป สามารถติดต่อเข้ามาพูดคุยกับเราได้ตามที่อยู่ด้านล่าง
http://coffeefarm.info
เว็บไซต์อื่นๆ :
http://www.beltandbearings.com
#โรงกาแฟ
No comments:
Post a Comment