ไม่ผิดหากคุณไม่ชอบกาเเฟRobusta หรือ บางคนดื่มเเต่ Arabica เหมือนบางคนที่ชอบดื่มน้ำเเร่ เเต่บางคนไม่ค่อยถูกจริตกับน้ำเเร่ที่มีรสชาติหวานกร่อยนิดๆที่โคนลิ้น การดื่มกาเเฟจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจยากเเละหลากหลาย หน้าที่ยากพอๆกับการเป็นหมอดูเลยตกไปอยู่ที่บาริสต้า..ทั้งกลิ่นเเละรสชาติไม่ได้ดีจากการปลูก การผลิตในขั้นตอนจากโรงกาเเฟอย่างเดียว มันขึ้นกับคนที่เขานำไปทำต่อด้วย
เครื่องดื่มที่เป็นที่ชื่นชอบเเละหลงไหลของคนทั่วโลกคือกาเเฟเรียกได้ว่ามีคนบริโภคกาเเฟพอๆกับการดื่มน้ำเปล่าเลยก็ว่าได้
การค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับกาเเฟในอินเตอร์เน็ตนั้นมามีข้อน่าสนใจมากมาก เเหล่งที่มาของกาเเฟนั้นมีจากหลายเเหล่ง..
โรงกาเเฟเเต่ละที่มี ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆทั้งกลิ่น รสชาติ เเละความใส่ใจในการดูเเละตั้งเเต่ยังเป็นเชอร์รี่ จนเป็นการเเฟสารหรือนำมาเเปรรูปในลักษณะต่างๆ
ปรกติเเล้วเมล็ดกาเเฟที่เก็บมาจากต้นนั้นมีขนาดไม่เท่ากัน ตามธรรมชาติทำให้เกิดเมล็ดกาเเฟที่มีขนาดหลากหลาย ทั้งPeaberry เมล็ดกาเเฟใหญ่ เล็ก เมื่อเเต่ละสวนกาเเฟปลูกกาเเฟในจำนวนที่มากขึ้นทำให้ยากต่อการคัดเเยกด้วยมือ เเละการทำความสะอาดก็ต้องใชเวลาเช่นเดียวกัน เครื่องมือการคัดเเยกเมล็ดกาเเฟเเละเครื่องจักรที่สามารถทำความสะอาดเมล็ดกาเเฟได้ครั้งละมากๆถูกนำมาใช้เพื่อทำให้เทล็ดกาเเฟถูกคัดเเยกอย่างละเอียดมากขึ้นลดระยะเวลาเเละข้อผิดพลาดได้เป็นอย่างดี
เครื่องมือเลยเป็นสิ่งจำเป็นของโรงกาเเฟไปโดยปริญายพอๆกับเเรงงานคน..ยิ่งถ้ากำลัง
การผลิตมีมาก การส่งออกในตลาดก็จะกว้างมากขึ้นไปด้วย สำหรับโรงกาเเฟในต่างประเทศนั้นถือว่าเป็นโรงกาเเฟที่มีมาตรฐานที่ดีเพราะสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเติบโตของเมล็ดกาเเฟ รสชาติเป็นที่ชื่นชอบมีเอกลักษณ์ สิ่งสำคัญที่มีผลกับเมล็ดกาแฟนั่นก็คือ แหล่งเพาะปลูกเมล็ดกาแฟนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิประเทศ ประเภทของดิน สภาพอากาศ รวมไปถึงวิธีการปลูกและการเก็บเกี่ยว
เสน่ห์ของกาเเฟคือขึ้นอยู่กับการผลิตเเละขั้นตอนการนำมาเเปรรูปการเข้มงวดในการดูเเลเมล็ดกาเเฟ การคั่ว จนออกมาเป็นเมล็ดกาเเฟที่มีBodyสมบูรณ์เเบบ
ถ้าเราไปดูเมล็ดกาแฟตาม Supermarket และต้องการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟ เราคงเจอเมล็ดกาแฟวางขายอยู่มากมายจนเลือกไม่ถูก เมล็ดกาแฟมีวางขายมากมายไม่ว่าจะเป็น เคนยา (Kenya), จาไมกัน บลูเม้าท์เท่น (Jamaican Blue Mountain), จาวา (Java) และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่จริงๆ แล้วพันธ์กาแฟหลักๆ มีอยู่เพียงแค่ 2 พันธ์เท่านั้น นั้นคือ Arabica และ Robusta แต่อะไรทำให้กาแฟสองสายพันธ์นี้ มีความแตกต่างจนเกิดกาแฟรสชาติหลากหลายมากมายให้เราได้ดื่มกันทุกวันนี้
ที่เราเห็นมากมายคือเกรดต่างๆของกาแฟและยี่ห้อ
ประเภทแรกของเมล็ดกาแฟคือ Arabica เมล็ดกาแฟประเภทนี้มีปริมาณการบริโภคสูงถึง 70% จากเมล็ดกาแฟสองประเภท และเป็นประเภทของเมล็ดกาแฟที่เป็นที่นิยม
Arabica มีราคาแพงกว่าเมล็ดกาแฟอีกหนึ่งประเภทเพราะวิธีการปลูกและเงื่อนไขในการเติบโตที่เฉพาะสำหรับ Arabica สำหรับพื้นที่ที่สามารถปลูกเมล็ดกาแฟประเภทนี้ได้ต้องมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1000 เมตรเป็นอย่างต่ำและต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ทางตอนเหนือของประเทศเราก็มีการปลูกArabica กันอย่างเเพร่หลายในโรงกาเเฟหลายเเห่งเเต่กำลังการผลิตก็ยังไม่เพียงพอต่อการส่งออกอยู่ดี การส่งออกเมล็ดกาเเฟในประเทศเราเลยอยู่รั้งท้าย ทั้งๆที่ความเป็นจริงลักษณะเมล็ดเเละรสชาติที่ออกมาถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์พอตัวเลยทีเดียว..
เมล็ดกาแฟประเภทที่สองคือ Robusta เมล็ดกาแฟประเภทนี้มีปริมาณการบริโภค 30% สามารถปลูกได้ในเกือบทุกพื้นที่และยังโตได้ในอุณหภูมิที่สูงถึง 27 องศาเซลเซียส แต่คนดื่มกาแฟส่วนมากไม่ชอบรสชาติที่ขมของเมล็ดกาแฟประเภทนี้ (ขึ้นอยู่กับความชอบนะคะ) ซึ่งRobusta ประเทศเราก็มีกำลังการผลิตที่มากขอควร ปลูกกันมากทางตอนไต้ของประเทศ
เมล็ดกาแฟ Robusta มักถูกนำไปทำเป็นกาแฟกระป๋อง หรือกาเเฟทรีอินวันเเบบซองเพราะสามารถปรุงรสชาติและทำให้ความขมของกาแฟลดลง นอกจากนี้ Robusta ยังถูกใช้ผสมใน Arabica เพื่อทำให้ราคาของเมล็ดกาแฟถูกลง และถ้าลองสังเกตที่ฉลากของเมล็ดกาแฟจะเห็นรายละเอียดของยี่ห้อตามด้วยการผสมของเมล็ดกาแฟ (blend) และการอบ (roasting)
แล้ว Blue Mountains, Kenya AA หรือ Kona คืออะไร จริงๆแล้วเมล็ดกาแฟเหล่านี้คือ Arabica แต่ว่าสามารถปลูกและโตได้ในพื้นที่เฉพาะเท่านั้นและมีราคาแพง หรือจะเรียกได้อีกอย่างว่า Blue Mountains, Kenya AA หรือ Kona คือยี่ห้อของเมล็ดกาแฟแบบ Arabica
พื้นที่ปลูกเมล็ดกาแฟทำให้รสชาติของเมล็ดกาแฟแตกต่างกันเช่น Jamaican Blue Mountains จะมีรสชาติที่ไม่เข้มและไม่ขมมากนัก (mild) เป็นเพราะผลมาจากอากาศที่เย็นและความชื้นที่เฉพาะในพื้นที่สำหรับปลูก Blue Mountains ส่วนกาแฟ Kenya จะมีรสชาติที่เข้มกว่าเพราะปลูกในคนละพื้นที่ ดังนั้นถ้าชอบรสชาติของเมล็ดกาแฟประเภทไหนแล้วอยากหาแบบอื่นที่รสชาติใกล้เคียงกัน ก็สามารถสังเกตได้จากพื้นที่ที่ปลูก
ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าประเภทของเมล็ดกาแฟมี 2 ประเภทคือ Arabica และ Robusta แต่ว่ามีหลายยี่ห้อ ซึ่งแตกต่างกันจากหลาย factor เช่นพื้นที่ที่ปลูก
ประเทศที่ดื่มกาแฟมากที่สุดของโลกคือ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และ เยอรมัน รวมทั้งสามประเทศประมาณ 65% ของการดื่มกาแฟทั่วโลก โดยที่ปริมาณการดื่มกาแฟทั่วโลกต่อปีมากกว่า 400 พันล้านแก้วแค่เฉพาะ สหรัฐอเมริกา มีการดื่มกาแฟถึงประมาณ 400 ล้านถ้วยต่อวัน หรือประมาณ 35% ของการดื่มกาแฟทั่วโลก มีการทำสถิติการดื่มกาแฟของคนอเมริกัน พบว่า 54% ของผู้ใหญ่ ดื่มกาแฟเป็นประจำหรือดื่มทุกวัน และ 25% ดื่มเป็นครั้งคราว
ไม่ว่าเราจะเลือกดื่มกาเเฟในเเบบได้มันเป็นเทสที่ส่วนตัวมากๆคือขึ้นอยู่กับความชอบในรสชาติ..
“ เเหล่งปลูกกาเเฟที่ดีสมบูรณ์ ไม่ว่าเป็นกาเเฟสารพันธ์ใด รสชาติจะออกมาดีเอง “
ดูเพิ่มเติมได้ที่ : http://coffeeconstruct.com
เว็บไซต์อื่นๆ :
#โรงกาเเฟ
No comments:
Post a Comment