Monday, September 26, 2016

กาแฟ Organic



เดี๋ยวนี้กระเเสรักสุขภาพมาเเรงเราจะได้ยินจนคุ้นหูเกี่ยวกับเรื่องอาหารคลีน รู้ถึงประโยชน์ของการเลือกกินมากขึ้นการเเสนี้มาเเรงจนไปถึงผู้จำหน่ายกาเเฟต่างหาชูจุดขายที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพมากขึ้น

กาแฟ Organic คือกาเเฟที่ปราศจากการตัดเเต่งพันธุกรรม งดการใช้สารเร่งฮอร์โมน งดใช้สารเคมีตั้งเเต่กระบวนการเเรกคือการปลูกไปจนถึงการเเปรรูปในโรงงานชาวสวนก็เปลี่ยนหรือเเยกเเปลงจากเเบบปลูกธรรมดามาปลูกเเบบออกเเกนิคเพื่อจูงใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ เเต่ต้องยอมรับว่าการปลูกเเบบออเเกนิคนั้นเสี่ยงที่เมล็ดกาเเฟจะโดนทำร้ายด้วยเเมลงมาก การจำเเนกเอาเมล็ดกาเเฟเสียออกนั้นต้องใส่ใจอย่างยิ่ง ทั้งเมล็ดที่ถูกเจาะ เมล็ดหูช้าง เมล็ดหัก เครื่องจักรที่คัดเเยกเมล็ดกาเเฟจึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้ในโรงกาเเฟ นอกจากข้อมูลที่อยู่บนฉลากที่บอกวันที่บอกเเหล่งที่มาจากไร่ รวมไปถึงกระบวนการเเปรรูปเเล้ว ‘ตรารับรอง organic’ ก็มีอยู่บนฉลากกาเเฟเช่นกัน

ถ้าหากลองเดินเลือกซื้อเมล็ดกาเเฟที่ชั้นวางกาแฟของซูเปอร์มาร์เก็ตก็เริ่มเห็นเมล็ดกาแฟ organic วางจำหน่ายกันบ้างแล้ว ทีนี้เรามาดูกันว่า‘ตรา’อะไรบ้างที่เจอกันบ่อยบนฉลากกาแฟ organic และตราเหล่านั้นบอกอะไรกับคนดื่มกาแฟ





The Global Organic Mark เป็นตรารับรองผลิตภัณฑ์ organic ที่อนุมัติโดยตรงจาก ‘สมาพันธ์เกษตรอินทรีย์ นานาชาติ’ (IFOAM) เป็นตราสัญลักษณ์ที่ยอมรับกันในระดับสากล

Bioagricert ตราที่รับรองการผลิตสินค้าอินทรีย์ ซึ่งผ่านการรับรองจากกระทรวงเกษตรของประเทศอิตาลี  และนอกจากนี้ Bioagricert ยังได้รับการรับรองจากหน่วยงานในยุโรป ซึ่งรับรองโดย IFOAM ด้วยเช่นเดียวกัน

USDA ตราเกษตรอินทรีย์ ตามมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา รับรองโดย U.S. Department of Agriculture หากผลิตภัณฑ์ใดต้องการวางจำหน่ายและโฆษณาว่าเป็นสินค้า organic ในสหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องผ่านการรับรองนี้ ซึ่งขั้นตอนการตรวจเพื่อรับรอง ครอบคลุมทั้งขั้นตอนการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการแปรรูป

EU organic (European Union Organic)  ตราเกษตรอินทรีย์สหภาพยุโรป หากผู้ผลิตไทยจะขอตรา EU organic สามารถยื่นขอกับ ‘สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.)’ เพราะมาตรฐาน มทก. ผ่านการประเมินแล้วว่าเท่าเทียมกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของสหภาพยุโรป
ดังนั้น หากขอการรับรองของ EU organic โดยผ่าน มกท. จะมีรหัสแหล่งควบคุมที่ออกโดย มกท. กำกับอยู่ใต้โลโก้ เช่นในภาพตัวอย่างจะเห็นรหัส TH-BIO-132
ในตรา EU organic เรายังรู้ได้คร่าวๆอีกว่า ส่วนประกอบในสินค้านั้นมาจากไหน โดยถ้าเจอคำว่า “EU Agriculture” อยู่ใต้โลโก้ แปลว่าส่วนประกอบมาจากยุโรปทั้งหมด ถ้าเป็น
Non-EU Agriculture” แปลว่าวัตถุดิบทั้งหมดปลูกนอกยุโรป   
EU/non-EU Agriculture” แปลว่า บางส่วนปลูกในยุโรป บางส่วนปลูกนอกยุโรป
แต่ถ้าส่วนประกอบทั้งหมดในสินค้าปลูกจากแหล่งประเทศเดียวกัน จะใช้ชื่อประเทศกำกับ เช่น เมล็ดกาแฟดอยช้างที่ปลูกในไทยทั้งหมด จะกำกับไว้ว่า “Thailand-Agriculture

แต่บางครั้ง เราอาจเจอตรา organic อื่นๆได้อีก เช่น OneCert ที่ผ่านมาตรฐาน USDA / USCOEA / JAS และอื่นๆ หรือหากเป็นของไทยเราเองก็มีตรา Organic Thailand ออกโดย กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ ซึ่งแต่ละมาตรฐานการรับรอง ก็มีเงื่อนไข มีรายละเอียดการรับรองที่ต่างกัน เช่น ‘น้ำส้มควันไม้’ ภูมิปัญญาของไทยเราผ่านการรับรอง Organic Thailand แต่ไม่ผ่านการรับรองของ USDA ซึ่งในส่วนของ USDA เอง ก็มีรูปแบบการรับรองประเภท ‘ส่วนประกอบ organic 100%’ และ ‘ส่วนประกอบ organic ไม่น้อยกว่า 95%’แถมท้ายกันหน่อย… หากเจอโลโก้  FAIRTRADE อยู่บนฉลาก (อย่างในภาพตัวอย่าง) ให้รู้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นผลจากระบบการค้าที่ “เป็นธรรมต่อผู้ผลิต” มีการตรวจสอบรับรองกระกวบการโดย FAIRTRADE  ที่เป็นสากล ถือว่าเป็นการสนับสนุนชุมชน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ผลิต ตอบโจทย์สังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยนะจ๊ะ

เรื่องการดื่มกาแฟ organic ไม่ว่าจะเลือกเมล็ดที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอะไรมาก็ดี แต่ถ้าอยากดื่มกาแฟแบบ organic เพียวๆทั้งแก้ว ก็ต้องใส่ใจเรื่องส่วนผสมอื่นในแก้วกาแฟอย่าง น้ำนม หรือน้ำตาล กันด้วยน้า



ติดตามเรื่องราวของกาแฟตั้งแต่กระบวนการแรกจนขั้นตอนสุดท้ายจาก Coffee Construct 


ดูเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/coffeeconstruct/
http://coffeeconstruct.com


เว็บไซต์อื่นๆ :
#โรงกาเเฟ



No comments:

Post a Comment